โดยพบว่าภายในบ้านมีรั้วล้อมรอบตัวบ้าน ภายในบ้านพบรถยนต์จำนวนหลายคันจอดเรียกอัดแน่น จากการตรวจสอบพบ รถยนต์กระบะ จำนวน 10 คัน รถยนต์เก๋งจำนวน 11 คน รถจักรยานยนต์ 3 คัน ภายในบ้านตรวจค้นพบอาวุธปืนที่รับจำนำเอาไว้ จำนวน 2 กระบอก สมุดบัญชี รับจำนำรถยนต์ สมุดบัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม ของผู้กู้เงินจำนวน มาก กุญแจรถยนต์ จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
สอบถาม นายธีรพันธุ์ อายุ 56 ปี เบื้องต้นทราบว่า ตนเองรับจำนำรถยนต์ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่รู้จักกันและที่บอกต่อๆกันมา ในอัตราร้อยละ 5 บาท ส่วนเงินกู้ตนเองจะปล่อยให้กับลูกน้องที่ทำงานด้วยไม่คิดดอกจะหักจากเงินเดือน และมีปล่อยให้กู้กับคนที่รู้จักกัน ส่วนรถยนต์ที่เห็นทั้งหมด ส่วนใหญ่เจ้าของรถก็จะมาเสียดอกและบางคันก็จะมาไถ่ถอนคืนไปโดยตนไม่ได้ยึดหรือนำไปขาย ส่วนอาวุธปืน 2 กระบอกก็ตนเองก็รับจำนำไว้ และยอมรับว่า ได้ ปล่อยดอกเบี้ยเกินอัตราที่กำหนดจริง
พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สนองนโยบายของรัฐบาลเรื่องของการปล่อยเงินกู้ ในอัตราที่เกินกำหนดโดย และเป็นนโยบายของทาง นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามเงินกู้นอกระบบ ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ทางศูนย์ป้องกับราบรามเงินกู้นอกระบบ โดยมี นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เป็นประธาน ได้รับการร้องเรียน จากประชาชน มีการนำรถยนต์มาจำนำแล้ว มีการมาไถถอนรถยนต์แล้วรถยนต์หายไป และมีการปล่อยเงินกู้เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด จึงให้ชุดสืบสวนสืบสวนหาข่าวขยายผล ขอศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกหมายค้นทำการตรวจ พบรถยนต์ จอดอยู่ภายในบ้านหลายคัน และอาวุธ กระสุนปืน พร้อมสมุดทะเบียนเล่มรถ สมุดธนาคารหลายใบ และหลังจากนี้จะเชิญตัวเจ้าของรถ ที่รับจำนำทั้งหมดมาสอบสวน ในส่วนเจ้าของรถยนต์ทั้งหมด ให้มาตรวจสอบรถยนต์ของตนเองพร้อมทั้งต้องทำการเจรจาพูดคุยกับทางผู้ต้องหาในเรื่องการใช้หนี้สินที่ได้กู้ยืมไป ตามกฎหมาย
โดยเบื้องต้น นาย ธีรพันธุ์ ทางเจ้าของบ้านนั้นยอมรับสารภาพ ทุกข้อกล่าวหา โดยจะนำตัว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินคดี ในข้อหา เรียกรับดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และความผิดเกี่ยวกับ พรบ.อาวุธปืน
เงินกู้นอกระบบ #ปล่อยเงินกู้
ฝ่ายอำนวยการ5
ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ตำรวจภูธรภาค1
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ