16 มิ.ย.68 ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายนราพัฒน์ แก้วทองได้มอบหมายคณะทำงานลงพื้นที่อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อรับฟังปัญหาที่ดินทำกินของประชาชนกว่า 200 ครัวเรือน โดยการประชุมจัดขึ้นที่ศาลาประชุมภายในอุทยานแห่งชาติเขาค้อ ซึ่งได้รับคำกล่าวต้อนรับจากนายเสกสรรค์ เที่ยงพลับ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาค้อ
การประชุมครั้งนี้ นำโดย นายยุพราช บัวอินทร์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ นายพิศณุพงศ์ สิทธิโชคแก้วมูล คณะทำงานผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(นายนราพัฒน์ แก้วทอง) นายไพรัช มณีงาม ผอ.ส่วนฟื้นฟูฯสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่11(พิษณุโลก)กรมอุทยานฯ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อรับฟังปัญหาและความเดือดร้อนของชาวบ้านอำเภอเขาค้อที่ประสบปัญหาเรื่องที่ดินทำกินในพื้นที่ป่าและอุทยานแห่งชาติมาอย่างยาวนาน
นโยบาย “ป่าอยู่ได้ คนอยู่ได้” หัวใจสำคัญของการแก้ไขปัญหา
นายยุพราช บัวอินทร์ เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของประชาชนในพื้นที่ป่าอย่างเป็นรูปธรรม โดยยึดหลักการสำคัญที่ว่า “ป่าอยู่ได้ คนอยู่ได้” เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติกับการดำรงชีวิตของชุมชน
“กระทรวงฯ ตระหนักถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่อาศัยและทำกินในพื้นที่มาก่อนการประกาศเขตป่า หรือเขตอุทยานฯ และมีความมุ่งมั่นที่จะหาแนวทางช่วยเหลือให้ประชาชนสามารถทำกินได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายและยั่งยืน โดยไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ” นายยุพราช กล่าวเสริม พร้อมย้ำว่าการรับฟังปัญหาโดยตรงจากประชาชนเป็นสิ่งสำคัญในการหาแนวทางแก้ไขที่ตรงจุดและเป็นธรรม
ชูโมเดล “สหกรณ์การเกษตร” และ “เช่าที่รัฐ” เพื่อความยั่งยืน
ด้าน นายพิศณุพงศ์ สิทธิโชคแก้วมูล ได้กล่าวถึงแนวทางเบื้องต้นที่กำลังพิจารณาเพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐมนตรีฯ โดยเน้นย้ำถึงสองแนวคิดหลักคือ การส่งเสริมให้มีการจัดตั้ง สหกรณ์การเกษตร ในพื้นที่ เพื่อให้เกษตรกรสามารถรวมกลุ่มกันบริหารจัดการทรัพยากรและส่งเสริมอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“นอกจากนี้ เรายังกำลังศึกษาและพัฒนาแนวคิดเรื่อง การเช่าที่ดินจากภาครัฐเพื่อการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโมเดลที่น่าจะช่วยให้พี่น้องประชาชนมีที่ดินทำกินอย่างเป็นหลักแหล่ง มีความมั่นคงในอาชีพ และสามารถทำกินได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อลดปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่า และส่งเสริมให้การประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นไปอย่างมีระบบมากขึ้น สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของรัฐมนตรีฯ ที่ต้องการเห็นการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างคนกับป่า” นายพิศณุพงศ์ กล่าว
หลังจากนี้ คณะทำงานจะรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง และข้อเสนอแนะทั้งหมดที่ได้จากการประชุม เพื่อนำไปประมวลผลและนำเสนอต่อผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อพิจารณากำหนดเป็นนโยบาย มาตรการ และแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรมและจะมีการประกาศให้ทราบต่อไป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่เขาค้อและพื้นที่อื่นๆ ที่ประสบปัญหาคล้ายคลึงกัน
ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติเขาค้อ ตั้งอยู่ที่ 67 ม.1 ต.สะเดาพง อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ 67270 เป็นอุทยานขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญทางระบบนิเวศ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถรองรับการจัดประชุมและการดำเนินงานต่างๆ เพื่อประโยชน์ของชุมชนและสิ่งแวดล้อม.
ถาวร ศรีอรัญ ผอ.กิจการพิเศษหนังสือพิมพ์”ข้าแผ่นดินสยาม”/รายงาน
/////////////////////////////////
